2552-12-29

ผลสอบ SP2 ฟัน “วิทยา-มานิต” เปิดช่องโกง ส่อพันฮั้วรถพยาบาล พ่วง ขรก.8 ราย

ผลสอบ SP2 ฟัน “วิทยา-มานิต” เปิดช่องโกง ส่อพันฮั้วรถพยาบาล พ่วง ขรก.8 ราย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 ธันวาคม 2552 16:03 น.

เมื่อเวลา 14.00 น. นพ.บรรลุ ศิริพานิช ประธานคณะกรรมการสอบสวนการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการสอบสวนว่า ในภาพรวมการจัดตั้งงบประมาณของโครงการนี้ มีพฤติกรรม และพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า ส่อไปในทางที่ทำให้เกิดการทุจริตจริง

ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม ได้แก่ การขอตั้งงบประมาณสิ่งก่อสร้าง ครุภัณฑ์การแพทย์ และรถพยาบาล มีความผิดพลาดมากมาย การกระจายตัวไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ราคาตั้งไว้สูงเกินจริง ซึ่งส่อเจตนาการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

ในส่วนของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเหตุให้เกิดความบกพร่องผิดพลาด ส่อไปในทางที่ทำให้เกิดทุจริต แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ข้าราชการประจำ และนักการเมือง สำหรับข้าราชการประจำ ได้แก่ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข, พญ.ศิริพร กัญชนะ อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, อดีตผู้อำนวยการกองแบบแผน และเจ้าที่ในกองแบบแผน ที่มีส่วนในการตั้งงบประมาณสิ่งก่อสร้างที่สูงเกินจริง, นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์

นพ.สุชาติ เลาบริพัตร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารสาธารณสุขภูมิภาค, นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งถือว่ามีความบกพร่องในหน้าที่, นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ และนพ.จักรกฤษณ์ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 6

ส่วนข้าราชการการเมือง ได้แก่ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากไม่สามารถปัดความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นผู้บริหาร ถือว่ามีส่วนเปิดช่องทางให้มีการทุจริต

นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลโครงการไทยเข้มแข็ง แต่มีพฤติกรรมก้าวก่าย ล้วงลูก กดดัน ให้มีการจัดสรรงบประมาณเกินจำเป็น ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งตัวเองเป็น ส.ส.

นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีความเกี่ยวข้องในภาพรวมของโครงการไทยเข้มแข็ง และรถพยาบาลฉุกเฉิน และ นพ.กฤษฎา มนูญวงศ์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเกี่ยวโยงในเรื่องการจัดซื้อเครื่อง UV Fan

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ได้มีข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีมีการทบทวนโครงการไทยเข้มแข็งใหม่ทั้งหมด และให้มีการสอบสวน ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่รับราชการ และเกษียณราชการไปแล้ว ที่มีส่วนกระทำการเข้าข่ายความผิด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง และในส่วนของนักการเมืองให้ปฏิบัติตามกฎเหล็ก 9 ข้อ ที่เคยมีการประกาศก่อนหน้านี้ ในเรื่องความสุจริตของนักการเมือง


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000159467


“วิทยา” โต้ผลสอบ SP2 บอกแน่จริงต้องมีหลักฐาน ครวญโดนวางยา ทั้งที่ยังไม่จ่ายซักบาท
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 ธันวาคม 2552 19:10 น.

นายวิทยา แก้วภราดัย
“วิทยา” โต้ผลสอบไทยเข้มแข็งไม่สุจริต ยันบาทเดียวก็ยังไม่ได้จ่าย อย่ากล่าวหาลอยๆ แบบทางการเมือง ซัดตั้งข้อหาส่อทุจริตกล่าวหาร้ายแรงสุดในทางการเมือง บอกแน่จริงต้องมีหลักฐาน อ้างวันชี้แจงกรรมการฯพูดอีกอย่าง ยันไม่สร้างภาระให้กับนายกฯแน่ พร้อมย้ำสื่อเองต้องไม่กดดันให้ต้องยอมรับตามคณะกรรมการฯสอบด้วย เชื่อหลังจากนี้เกิดแรงเสียดทานกดดันให้ลาออกนี้ ถามรังเกียจอะไรถึงต้องการเขี่ยพ้น สธ. งงบอกไม่เคยล้วงลูกแต่ถูกวางยา เตรียมเข้าแจงนายกฯก่อนประชุมครม.อังคารนี้ ลั่นไม่ทำให้พรรค-นายกฯเสียหายแน่ ครวญตกเป็นจำเลยสังคม ลั่นถ้ากรรมการผิดก็ต้องรับผิดชอบด้วย

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีข้อร้องเรียนการทุจริตในโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุข มูลค่ากว่า 8.67 หมื่นล้านบาทส่อทุจริตว่า ตรงนี้เป็นข้อแถลงที่ตนสงสัย เพราะวันที่ตนไปชี้แจง หมอบรรลุเองเป็นแจ้งกับตนว่า ตนไม่อยู่ในข่ายที่จะสงสัย และข้อเท็จจริงคำว่า ส่อไปในทางทุจริตหรือไม่สุจริตนั้น เป็นถ้อยแถลงที่ตนยืนยันว่า ผมเสียหายแน่ ข้อเท็จจริงก็คือ กระทรวงสาธารณสุขจัดทำโครงการไทยเข้มแข็ง เมื่อมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า โครงการนี้อาจจะมีบางรายการที่อาจจะมีการเตรียมการทุจริต ตนก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด บุคคลที่เป็นคณะกรรมการสอบคือคุณหมอบรรลุ และท่านพล.ต.อ.ประทินเอง ตนเป็นคนเสนอนายกรัฐมนตรีเป็นคนสอบ ระหว่างการสอบกระทรวงสาธารณสุขก็ยุติโครงการทั้งหมดนี้ เพราะฉะนั้น ไม่แน่ใจว่า รายละเอียดที่คณะกรรมการสอบ แล้วบอกว่าส่อไปในทางไม่สุจริตของตนคืออะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการระบุว่ารัฐมนตรีเปิดช่องให้มีการทุจริต นายวิทยา กล่าวยืนยันว่า ยังไม่มีการทุจริต เพราะว่าไทยเข้มแข็งยังไม่ได้จ่ายซักบาท เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้มีการเรียกร้องจากหมอบรรลุให้นายกฯใช้กฎเหล็ก 9 ข้อกับรัฐมนตรีว่า ความรับผิดชอบทางการเมืองต้องอยู่เหนือความรับผิดชอบทางกฎหมาย นายวิทยา กล่าวว่า ตนต้องการดูรายละเอียดว่า ตนเอื้อการทุจริตตรงไหน

“เพราะไม่ใช่กล่าวหาลอยๆ อย่างทางการเมือง ผมคิดว่า ผมมีความรับผิดชอบเพียงพอ และยืนยันกับพี่น้องประชาชนในเบื้องต้นว่า โครงการของกระทรวงสาธารณสุขบาทเดียวยังไม่ได้จ่ายไปเลย เพราะผมไม่อาจจะรู้ความในใจของใครว่า มีใครเตรียมการทุจริต เพราะการเตรียมการเป็นการเตรียมการในใจ คณะกรรมการรู้ถึงความในใจคนบางคนก็กรุณาบอก” นายวิทยา กล่าว

เมื่อถามว่า มีการระบุเกี่ยวกับโครงการหลายโครงการว่า ตั้งงบประมาณสูงเกินจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการก่อสร้าง ครุภัณฑ์ งบประมาณกระจุกตัวไม่ได้กระจายไปอย่างที่ควรจะเป็น นายวิทยา กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียด ถ้าเป็นเรื่องของค่าก่อสร้างก็มีหน่วยงานของกระทรวงเป็นคนอ้างอิงในการตั้งขึ้นมา ไม่ใช่รัฐมนตรีหรือใครไปสั่งการได้ ทุกหน่วยงานมีการตรวจสอบ ยืนยันว่า ไม่ว่าราคาจะตั้งไว้ยังไงก็ตาม มันเป็นการตั้งโดยคณะกรรมการที่ร่วมกันรับผิดชอบ ส่วนวิธีการเวลาจัดซื้อจัดจ้าง มันต้องเป็นไปตามเกิดจากสภาพความเป็นจริง การทุจริตยังไม่เกิด ตนไม่อาจทายใจใครได้ว่า ใครจะทุจริต

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ถ้าปล่อยไปโครงนี้ คุณหมอบรรลุถึงกับระบุถึงขณะบอกว่า แทนที่ไทยจะเข้มแข็ง ประเทศชาติจะอ่อนแอ นายวิทยา กล่าวว่า ตนต้องการรายละเอียดว่าโครงการอะไร เมื่อถามต่อว่า จะเดินหน้าโครงการไปได้อย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า ตนคิดว่ายังเดินหน้าโครงการไม่ได้ เพราะว่าต้องชี้ให้ชัดว่า เกิดอะไรขึ้น ในกระทรวงก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นทบทวนราคาทั้งหมด และกรรมการที่ตั้ง ก็เป็นตั้งแต่เป็นแพทย์ชนบทไล่ไปทุกคน ตนก็รอทบทวนให้เสร็จถึงจะอนุมัติโครงการ เมื่อถามว่า มีจุดตรงไหนที่คิดว่ารัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบ นายวิทยา กล่าวว่า ต้องการดูรายละเอียด เพราะคำว่า “ผมกระทำการส่อไปในทางไม่สุจริตเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงมากในทางการเมือง ถ้าการทุจริตยังไม่เกิด คณะกรรมการกล้ากล่าวอ้างอย่างนั้น ผมคิดว่า ต้องมีหลักฐานให้ผม” นายวิทยา กล่าว


เมื่อถามว่า หมายถึงว่าวันนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการฯ นายวิทยา กล่าวว่า ยืนยันว่า คำว่าส่อไม่สุจริตเป็นการกล่าวหารุนแรง เพราะการทุจริตยังไม่เกิด และได้ใช้ทุกมาตรการในการเริ่มต้นในการบริหารโครงการเช่น โครงการทุกโครงการในกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานใดได้หน่วยงานนั้นจะเป็นคนจัดซื้อจัดจ้างเอง จะไม่มีการโยกมาไว้ที่ส่วนกลางเพื่อให้ฝ่ายการเมืองไปล้วงลูก เพราะฉะนั้นยกตัวอย่างเราจะซื้อรถพยาบาล 800 คัน ทุกโรงพยาบาลจะเป็นคนจัดซื้อจัดจ้างเอง อันนี้ได้ให้การและยืนยันต่อคณะกรรมการฯชัดเจน เมื่อถามต่อว่า คิดว่าเรื่องนี้จะชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขอดูรายละเอียดเอกสารที่คณะกรรมการฯชี้มาก่อน และตนก็พร้อมที่จะชี้แจงนายกรัฐมนตรีตลอดเวลา เพราะว่าเป็นคนเสนอตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องนี้เอง ไม่มั่นใจตนไม่เสนอ โดยจะเข้าชี้แจงนายกรัฐมนตรีก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 29 ธ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเกิดไม่มีการับผิดชอบมันเหมือนกับว่าไม่รับฟังผลของคณะกรรมการฯที่ตั้งขึ้น นายวิทยา กล่าวว่า ตนขอรับฟังในรายละเอียด และยืนยันว่า วันที่ไปชี้แจงต่อกรรมการฯ ทางกรรมการพูดกับตนอีกอย่าง เมื่อถามต่อว่า จะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนในการดูรายละเอียดและพิจารณา นายวิทยา กล่าวว่า เดี๋ยวได้อ่านครบหมดในวังอังคารที่ 29 ธ.ค.นี้ก็จะดำเนินการได้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องอ่านทั้ง 4 กว่าหน้าที่มอบให้กับนายกฯหรือไม่ นายวิทยา ย้อนถามว่า กี่หน้านะ ผู้สื่อข่าวบอกว่า มี 4,733 แผ่น นายวิทยา ย้อนถามว่า สรุปผลสอบนะ ผู้สื่อข่าวบอกว่า ใช่ ท่านจะดูทั้งหมดเลยไหม นายวิทยา ได้แต่หัวเราะ

“ผมยืนยันขั้นต้นว่า คำว่าไม่สุจริตคือต้องมีการทำให้เกิดความเสียหาย ความบกพร่องที่บอกว่า ผมบกพร่องด้วยอะไรก็ตาม ณ วันนี้ยืนยันให้ประชาชนสบายใจได้ว่า ยังไม่มีความเสียหายต่องบประมาณแผนดิน เมื่อคนในกระทรวงบอกว่า มีคนบางส่วนกระเตรียมการทุจริต ผมก็ตั้งคณะกรรมการฯและให้ทุกคนมาร่วมกันสอบ และสั่งยุติโครงการทุกโครงการ วันนี้ไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ได้ออกสตางค์ เพราะฉะนั้นคำว่าไม่สุจริตเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง ผมจะไม่ทำให้พรรคและรัฐบาลเสียหาย แต่ต้องการข้อเท็จจริงก่อน” นายวิทยา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ถ้าคิดในเชิงบริหารความรับผิดชอบต้องอยู่ตรงไหน นาบวิทยา กล่าวว่า คิดว่าถ้าไปรู้เห็นเป็นใจด้วยกับการทุจริต ถ้าเกิดข้าราชการ 2 แสนกว่าคนทุจริต แล้วบอกว่า ตนต้องทุจริตด้วย ตนเข้าใจว่าเป็นการพูดแบบการเมืองมาก สตางค์ทั้งหมด 8 หมื่นกว่าล้าน เราก็ตั้งหลักด้วยความระมัดระวังก็คือ จะไม่รวบโครงการทั้งหมดมาไว้ จะกระจาย มีคนรวมรับผิดชอบ จะกระจายให้ทุกคนรับผิดชอบ ทุกอำเภอที่ได้ร่วมกันรับผิดชอบ เมื่อมีข้อครหาว่า โครงการมีคนบางคนเตรียมทุจริต ก็สั่งยุติโครงการทั้งหมด และตั้งกรรมการฯทบทวน จนถึงคณะกรรมการฯชุดนี้

เมื่อถามว่า หมายถึงว่า ในความรับผิดชอบทั้งหมด รัฐมนตรีคิดว่าเท่านี้เพียงพอแล้วเท่าที่ทำมาในการสอบการทุจริต นายวิทยา กล่าวว่า ไม่อาจใช้มาตรการที่เข้มแข็งมากกว่านี้ได้ ใครก็ทำไม่ได้มากกว่านี้ เมื่อถามต่อว่า ที่ระบุว่าเป็นการกล่าวหาทางการเมืองที่ร้ายแรงเกินไป มีอะไรที่ทำให้มองแบบนั้น รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า คำว่าไม่สุจริต ตนก็ต้องการราละเอียดว่า ตนไม่สุจริตตรงไหน เพียงแต่มีใครบางคนเตรียมที่จะทุจริต แล้วตนไม่สุจริต อันนี้กล่าวหาตน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่อยู่ในตำแหน่งต่อไปโดยที่ยังไม่มีการตัดสินใจรับผิดชอบ จะกลายเป็นภาระไปกดดันนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ตนไม่สร้างภาระกับนายกรัฐมนตรี และไม่อยากให้สื่อกดดันให้ตนต้องยอมรับตามคณะกรรมการฯทั้งหมด เพราะว่าวันนี้ทราบจากเพราะสื่อแจ้งข่าว เมื่อถามต่อว่า หวั่นหรือไม่ว่า จะเกิดแรงเสียดทานตามมาและแรงกดดันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ นายวิทยา กล่าวว่า เกิดแน่ และตนก็ต้องการคำตอบว่า “ทำไมเขารังเกียจไม่อยากให้ผมอยู่ในกระทรวงนี้ ที่นี้มันมีอะไรกันมากกว่านั้น” เมื่อถามว่า หมายความว่าได้ตั้งข้อสังเกตว่า มีปัญหาในส่วนของข้าราชการที่ต้องการเขี่ยการเมืองออกมาจากตำแหน่ง นายวิทยา กล่าวว่า มีความรู้สึกอย่างนั้น เมื่อถามว่า อะไรทำให้รู้สึกอย่างนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ยืนยันว่า มาถึงวันนี้การทุจริตยังไม่ได้เกิด และกรรมการฯสอบตนไปก็บอกว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เวลาผลสรุปออกมากับว่าเกี่ยวข้อง จึงอยากได้รายละเอียดว่า ใครเตรียมการทุจริต ถ้าตนไม่รู้อะไรซักอย่างแล้วมาบอกว่าตนไม่สุจริตเป็นการกล่าวหา

เมื่อถามว่า บอกได้หรือไม่ว่า กรรมการฯท่านไหนที่บอกว่าท่านไม่ได้อยู่ในข่ายที่จะมีปัญหาการทุจริต นายวิทยา กล่าวว่า ท่านประธานเอง และตนขอเทปบันทึกคำพูดของผมมา เมื่อถามต่อว่า คิดว่ามีเหตุผลอะไรที่ประธานบอกว่าท่านไม่ผิดแต่มาวันนี้บอกว่าผิด นายวิทยา กล่าวว่า หลักต้องตั้งต้นว่า ถ้ามีการทุจริตกันจริง ก็ต้องร่วมรับผิดชอบ ขณะนี้โครงการไทยเข้มแข็งยังไม่ได้ทุจริต มันมีบางโครงการที่ส่อไปในทางไม่สุจริต เราก็ยุติทั้งหมด เมื่อถามว่า บริหารงานมา 1 ปี มีปัญหาความขัดแย้งอะไรกับข้าราชการถึงขั้นมีการวางยา นายวิทยา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะไม่เคยไปล้วงลูกงานราชการ เราให้เกียรติทุกคน ยืนยันไม่มีคิดอาจเอื้อมไปทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง ว่าตนไปเป็นเรื่องๆ เลย ถ้าตีอย่างนี้ตนก็ตอบไม่ได้ ผลสอบออกมาวันนี้ก็ยังประหลาดใจ พูดลอยๆ ทางการเมืองพูดได้ แต่พูดในทางปฏิบัติราชการถ้าตนบกพร่องก็ต้องบกพร่องถ้าหากจริง

“ทุกเรื่องยืนยันโครงการไทยเข้มแข็งทุกโครงการต้องยุติหมด และผมจะไม่ยกเลิกแม้แต่โครงการเดียว จนกว่าจะสอบได้ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ผมไม่มีหน้าที่ไปยกเลิกเฉยๆ และคงต้องคุยกับรมช.สาธารณสุข ผมมีหน้าที่อะไรต้องไปล้วง และคณะกรรมการฯได้นำเอกสารมายืนยันกับผมว่า ตอนหลังมีการยืนยันว่าไม่จริงในที่ประชุม ผู้เขียนเอกสารเองยืนยันว่าผมไม่เคยสั่ง ท่านประทินเป็นคนยื่นเอกสารให้ผมดูในที่ประชุมเอง เรื่องนี้ทุกคนต้องรับผิดชอบ และทุกคนต้องรับผิดชอบ ถ้าผมผิดบกพร่องผมรับผิดชอบ กรรมการผิดก็ต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้ผมตกเป็นจำเลยสังคม ต้นทุนต่ำกว่านักการเมือง กล่าวแบบนี้ผมหนักใจและผมจะตกเป็นจำเลยสังคมทันที ”นายวิทยา กล่าว

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000159645